Pañpuri Wellness

I booked the Signature Mind and Body Vitalizer (240 minutes) for a couple as a gift for my mom, and we were both disappointed. Despite the high price (THB 16,900), the massage was underwhelming, and we didn’t feel relaxed. The facial treatment was the worst part—only a tiny amount of product was applied lightly, without good massage at all. I've had deeper muscle massages at normal spas and far better facials at even cosmetic counters in department stores in Bangkok. It had been a while, but I saw the ad again today, which brought back my disappointing experience. On the positive side, the staff were friendly, and the food was delicious. Unfortunately, the overall experience didn’t live up to expectations, and we were both left feeling sad. เป็นแฟนผลิตภัณฑ์มานาน ตั้งใจจองโปรแกรมที่ดีที่สุด 240 นาที (16900 บาท) เป็นของขวัญให้คุณแม่ แต่ค่อนข้างผิดหวังมากกับการนวด ทำได้ไม่ดี ไม่ถูกจุดและไม่รู้สึกผ่อนคลายเลย โดยเฉพาะการนวดหน้า เหมือนแตะผลิตภัณฑ์มาทาหน้าให้มากกว่าค่ะ ข้อดีคือพนักงานทุกคนสุภาพ พร้อมช่วยเหลือ และอาหารรสชาติดีค่ะ

บรรยากาศห้องนวด Couple ดีมาก สวยมองเห็นวิวห้างด้านนอก ใครเอารถมาปั๊มจอดรถได้ 6 ชั่วโมง บรรยากาศโดยรวมสะอาดสะบายตา ของที่ใช้คุณภาพดี เทราพิส พี่nita พี่อี้ด มืออาชีพมาก แนะนำค่ะ

บริการดี สถานที่สะอาด ที่จอดรถสะดวกสบาย คนมาใช้บริการไม่มากไป แช่น้ำเสร็จ ใช้แชมพู และสบู่ของปัญญอย่างจุใจ หอมสดชื่น ทำให้ผ่อนคลายความตรึงเครียดของกล้ามเนื้อและร่างกายอย่างมาก บรรยากาศเงียบสงบเหมาะสมกับเวลส์เนส ออนเซนใจกลางเมืองที่เข้าถึงง่ายและ ใช้เวลาอยู่ได้ทั้งวัน … ตั้งอยู่ Gaysorn Village ชั้น 12

(ผมเพิ่มเนื้อหาภาษาอังกฤษเข้าไป ไม่รู้มันจะกลายเป็นโพสต์ใหม่ไหม แต่โพสต์ต้นฉบับ ทาง manager ของ panpuri wellness ได้มาตอบแล้ว และผมดีใจที่ทาง manager ไม่นิ่งนอนใจต่อความคิดเห็นของผม) ในราคาเท่านี้ผมคาดหวังคุณภาพการบริการที่ดีกว่านี้ พนักงานที่นี่บริการอย่างไม่ถนอมความรู้สึกลูกค้าเลย ผมมีหลายเคสจะมายกตัวอย่าง 1. ขนมปัง สองมาตรฐาน: เคสนี้เป็นครั้งแรก ๆ ที่มาใช้บริการ ซึ่งก่อนที่เราจะใช้บริการ เราก็มีการโทรถามรายละเอียดก่อน ว่าทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้บ้าง ซึ่งพนักงานที่คุยโทรศัพท์บอกว่าสามารถเอาขนมปังไปกินรองท้องตอนอยู่ข้างในได้ ซึ่งผมก็ซื้อขนมปังติดเข้าไปด้วย ทีนี้ผมก็นั่งกินขนมปังอยู่ มีป้าข้าง ๆ นั่งกินถั่วอยู่ ซึ่งผมไม่รู้จักป้าคนนั้น พนักงานเดินมาเตือนผมว่ากินขนมปังไม่ได้ ผมก็เลยถามเขาว่า “ทำไมป้าข้าง ๆ กินถั่วได้” พนักงานก็ไม่ได้ตอบหรือเตือนอะไรไปยังป้าคนนั้น นอกจากนั้นผมก็ได้บอกไปเพิ่มว่าผมถามพนักงานแล้วว่าเขาอนุญาตให้กินขนมปังได้ ผมก็เล่าว่าผมโทรมาเช็ครายละเอียดตั้งแต่ก่อนมา เขาก็ได้บอกว่าระบบของที่นี่สามารถระบุคนรับสายได้ว่าเป็นพนักงานคนไหน ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขาจะไปตามเช็คไหมว่าพนักงานคนไหนคุยกับผม แต่สิ่งที่เห็นคือหลังจากวันนั้นคุณภาพการบริการก็ไม่ได้ดูต่างไปจากเดิม 2. ที่จอดรถ: เคสที่สองนี้ต้องท้าวความว่าปกติผมจะใช้บริการที่นี่ประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งแสตมป์บัตรจอดรถได้ทีละ 6 ชั่วโมง แปลว่าผมต้องวนที่จอดรถ 1 ครั้ง ซึ่งมีวันนึงที่ผมจำชั้นจอดรถไม่ได้ ผมเลยต้องเดินไล่ดูทีละชั้น พอเจอรถ ตอนกำลังวนจากที่จอดรถลงมาก็เจอป้าเข็นรถเข็นที่ไว้สำหรับทำความสะอาด นอกจากนั้นก็เจอช่างกำลังขนอุปกรณ์ ทำให้ผมวนลงมาจากที่จอดรถได้ล่าช้ามาก ปรากฏว่าพอผมขึ้นกลับไปที่ปัญปุริเวลเนส พบว่าพนักงานเอาของของผมออกจากล็อกเกอร์แล้ว เขาบอกว่าผมวนรถช้าเกินไป ซึ่งผมก็โกรธมากที่ทำไมกฎเขาถึงเข้มงวดซะลูกค้าเสียความรู้สึก (ณ ขณะที่ผมกำลังพิมพ์อยู่ผมก็กำลังวนที่จอดรถของที่นี่ และรถติดมากกกก ผมคงขึ้นไปช้าเหมือนก่อนหน้า ก็ไม่รู้จะทำไง ก็คงต้องต่อกลอนกับพนักงานเช่นเดิม รู้สึกแย่จัง) 3. หูฟัง: คราวนี้ผมได้ล็อกเกอร์ที่ใกล้กับบ่อน้ำพุร้อน ผมก็ใส่หูฟังเข้าไปด้วย ก็เจอพนักงานมาติเตียนอีกแล้ว ว่าเขาไม่ให้ให้หูฟังข้างในนี้ ผมก็งงว่าทำไมเขาอนุญาตให้ใส่นาฬิกาได้ แต่ไม่อนุญาตให้ใส่หูฟัง ทั้ง ๆ ที่นาฬิกาบางรุ่นสามารถถ่ายรูปได้ด้วยซ้ำ แต่หูฟังของผมมันไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย พนักงานอ้างว่าเขาห่วงใยลูกค้า กลัวของของลูกค้าเสียหาย ผมก็งงไปอีกว่าทำไมกลัวหูฟังเสียหายแต่ไม่กลัวนาฬิกาเสียหาย ผมก็บอกพนักงานไปว่าเอาไปคุยกับหัวหน้าด้วย ว่าไปคุยกับหัวหน้าด้วย กฎนี้มันตรรกะแปลกๆ จบเคสสาม ทั้งสามเคสผมรับมือกับพนักงานคนละคนกัน ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความรู้สึกลูกค้ามากเท่าไหร่ สาเหตุที่ผมยังมาใช้บริการซ้ำ ๆ ก็เพราะว่าผมซื้อคูปองไว้ ผมเลยต้องใช้ให้มันหมด ซึ่ง ณ วันที่ผมพิมพ์ข้อความนี้ ผมเหลือคูปองอีกแค่ใบเดียว ผมเหนื่อยกับการรับมือกับพนักงานที่นี่มาก ผมคงจะไม่มาใช้บริการแล้ว (ผมเคยเขียนใบแสดงความคิดเห็นส่งไปที่พนักงานด้วย และก็ไม่มีการปรับปรุงใด ๆ เลย) I expected better service for these prices, but the staff consistently disregard customers' feelings, as evidenced by three incidents. First, after confirming by phone that I could bring bread inside, I was reprimanded for eating it while an elderly lady nearby ate nuts without consequence. When I mentioned my prior call, they claimed they could trace the staff member but never addressed the issue. Second, during one of my typical 10-hour visits requiring a car move (due to 6-hour parking validation), I was delayed while searching for my car and navigating around cleaning and maintenance staff. Upon return, I found my belongings removed from my locker for being "too late." Third, I was told I couldn't use headphones near the hot spring, though watches were allowed. When I questioned this illogical rule, noting that some watches can take photos while headphones are harmless, staff cited concern about property damage – yet this somehow didn't apply to watches. Each incident involved different staff members, indicating a systemic problem with customer service. I continue visiting only to use my remaining prepaid coupon, after which I won't return. Previous feedback submissions have yielded no improvements.

ชั้น 12 Gaysorn Tower ออกจากลิฟต์เจอพื้นที่ reception มีshoe locker ให้เก็บรองเท้าด้านหน้า วันนี้ใช้บริการ scrub และoil massage โดยภาพรวมให้คะแนนการนวดในระดับดีสมราคา ในส่วนของสถานที่ชอบมาก แลดูไม่แออัด ไม่อึดอัดค่ะ