Chulabhorn Hospital Lak Si

เป็นโรงพยาบาลรัฐที่ดีงามมาก ฟีลเอกชนสุดๆ โดยเฉพาะตึก 400 เตียง เป็นระบบ พยาบาลดี หมอส่วนใหญ่ดีมาก แต่ถ้าไปครั้งแรกก็รอนานนิดนึง แต่ถ้าเข้าระบบแล้วก็ไวมากค่ะ หมอไพริน เวชศาสตร์ฟื้นฟูน่ารักมากกกกกก ประทับใจ

โรงพยาบาลชั้นนำย่านหลักสี่ ให้บริการการรักษาครอบคลุมและทันสมัย รถค่อนข้างติดมากตอนเช้า ที่จอดรถค่อนข้างหายาก สามารถนำรถไปจอดที่ IT Square ได้ ทางโรงพยาบาลจะมีบัตรจอดรถให้ฟรี และมีรถรับส่งบริการจาก IT Square, หรือเดินมาตาม sky walk ได้ จากสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง หลักสี่ มาถึงหน้า รพ.เลย สะดวกสบายขึ้นเยอะ

ก่อนหน้านี้เราเกิดอุบัติเหตุและรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ต่างจังหวัด ซึ่งไม่ใช่จังหวัดที่เราอาศัยและเราไม่ได้ทำงานอยู่จังหวัดนั้น หมอที่รพ.นั้นให้การรักษาสันจมูกที่แตกของเราและให้นอนดูอาการอีก 1 วันและให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน และให้เราไปโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อเอา nasal packing ออก เนื่องจากรพ.จุฬาภรณ์เป็นโรงพยาบาลใกล้บ้านเรา จึงได้ใช้บริการรพ.จุฬาภรณ์แผนกศัลยกรรมกับคุณหมอท่านหนึ่ง เราสังเกตุคุณหมอมีท่าทีดูรังเกียจตอนที่ดึงเอา nasal packing ออกให้(อันนี้พอเข้าใจได้เพราะมันอยู่ในรูจมูกตั้ง 7 วันคงสกปรกน่าดู) เรามีความกังวลเกี่ยวกับอาการบนใบหน้าเรามากซึ่งมีอาการชาและปวดตึงอยู่ เราจึงถามคุณหมอว่า "นี่มันบวมใช่ไหมมันจะหายบวมอีกใช่ไหมคะคุณหมอ" คุณหมอตอบว่า "ไม่รู้สิ ไม่เคยเห็นหน้าเดิมเรา" (เออ! ก็เข้าใจได้ มันก็จริงตามที่เขาตอบแหล่ะ) แล้วเราก็ถามต่ออีกว่า "อาการที่มีแสงแว๊บๆ ปลายหางตา มันจะเป็นไรไหมคะ" คุณหมอก็ตอบกลับมาว่า "อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน" คุณหมอไม่ให้คำแนะนำอะไรเลยกับคำถามที่เราถามไปหลายอย่าง คุณหมอตอบแค่"ไม่รู้" (เราก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า เราไม่น่าไปถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานด้านที่เขาทำเลย) แล้วการไปหาหมอวันนั้นก็ผ่านพ้นไป หลังจากนั้นผ่านไป 1 เดือน อาการที่เราเป็นอยู่ยังไม่หาย คือมีอาการชาปวดตึงใบหน้าและเบ้าตา และจะมีแสงแปล๊บ ๆ เหมือนแสงแฟลช ด้วยความที่เราไม่ประทับใจกับการให้บริการของรพ.จุฬาภรณ์ครั้งก่อน เราจึงเลือกไปรักษาที่โรงพยาบาลรามา ซึ่งเป็นรพ.ไกลบ้าน แต่คุณหมอดูใส่ใจกับอาการที่เราเป็นอยู่ และคุณหมอที่รพ.รามาทำงานหนักมาก แม้ถึงเวลาพักเที่ยงแล้วคุณหมอก็ยังไม่พักทานข้าว ยังคงรับคนไข้ต่อไปเรื่อย ๆ ทำให้เราซาบซึ้งคุณหมอรพ.รามามาก ๆ วันที่ 31 มีนาคม เราพยายามเปิดใจที่จะไปแผนกศัลยกรรม รพ.จุฬาภรณ์อีกครั้ง เพื่อจะปรึกษาคุณหมอเรื่องรอยแผลเป็นและพังผืดที่เกิดจากการเย็บแผลที่จมูก และเราคิดว่าเราคงได้พบหมอท่านอื่น แต่วันนั้นไม่ได้พบคุณหมอเนื่องจากเวลาที่เราไปเป็นช่วงบ่ายแล้ว และคุณพยาบาลได้ทำใบนัดให้พบหมอวันที่ 10 เมษายน ผ่านมาจนถึงวันที่ 8 เมษายน ช่วงเวลา 08.50 น. เรานึกสงสัยว่าเราจะได้พบหมอท่านเดิมที่เอา nasal packing ออกให้เราไหมนะ? เราจึงมาดูใบนัดปรากฎว่าเป็นชื่อหมอท่านเดิมที่เราเคยเจอ เราจึงรีบโทรไปรพ.จุฬาภรณ์ เพื่อขอเปลี่ยนหมอ และได้แจ้งคุณพยาบาลไปว่า เราอยากเปลี่ยนหมอ ขอเปลี่ยนได้ไหม เรารู้สึกไม่โอเค เนื่องจากเราไม่อยากเจอความรู้สึกแย่ๆ แบบนั้นอีก และในใจเราก็ไม่ไว้ใจหมอท่านนั้นแล้ว คุณพยาบาลตอบกลับเรามาว่า "เปลี่ยนไม่ได้ค่ะ" และให้เหตุผลอีกมากมาย เราก็เลยถามกลับไปว่า "คนไข้ไม่มีสิทธิเลือกหมอใช่ไหมคะ" คุณพยาบาลก็ตอบกลับมาว่า "ใช่ค่ะ ถ้าไม่งั้นคนไข้ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้บริการโรงพยาบาลอื่น" เราให้ 2 ดาว เพราะยังมีเจ้าหน้าที่และคุณหมอท่านอื่นๆ ที่ให้บริการดีอยู่ค่ะ แต่เราคงไม่ใช้บริการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์แล้ว ถ้าไม่ฉุกเฉินจริงๆ

ตึกสร้างใหม่สวย สะอาด แต่แผนกฉุกเฉินที่เปิดในซอยแถวศูนย์ราชการ ไม่ได้มีเครื่องมือบางอย่างและบุคลากรพร้อมตลอดเวลา ครั้งก่อนพาหลานวัยอนุบาลมาลูกปัดเข้าจมูกนั่งรอเป็น ช.ม. กว่าจะส่งตัวไปอีกตึกเพราะมีเครื่องมือที่พร้อมกว่า และล่าสุดพาลูกที่ปวดท้องกระทันหัน ปวดรุนแรงอาเจียน มาหาหมอตอนตีสี่แต่ไม่มีหมอ พยาบาล สักคนมีแค่เจ้าหน้าที่มาซักประวัติแปปเดียวแล้วก็หายไป บอกแค่ให้นั่งคอย นานมาก ไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหมอเวร สแตนบายใดๆ จนต้องพาไป ร.พ. อื่นแทน อยากให้ปรับปรุงแผนกฉุกเฉินควรมีบุคลากรประจำอยู่เวรนะคะ และพร้อมดูแลคตที่มารักษาให้รวดเร็วกว่านี้ค่ะ

พาลูกฉีดวัคซีนที่โรงบาลจุฬาภรณ์ตึก400เตียง ใช้สิทธิ์บัตรทอง ทุกคนน่ารักพูดจาดีสุภาพไม่เหวี่ยงวีนเลยสักคน เริ่มตั้งแต่ทางเข้าคือ รปภ.เจ้าหน้าที่เคาเตอร์ คนขับรถตู้รับส่งของโรงบาล ประทับใจพยาบาลและแพทย์กุมารเวช ขอบคุณทุกท่าน เป็นกำลังใจให้ทำดีต่อไปค่ะ🥰สถานที่สะอาดกว้างโล่งสบาย เหมือนเอกชนเลย ที่จอดรถไกลหน่อย แต่ดีกว่าไม่มีที่จอดเดินออกกำลังขา😊